ประกาศ  บริษัท ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน)

ที่  17 / 2565

เรื่อง  นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Policy)

 

บริษัท ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ รวมถึงบริษัทที่จัดตั้งขึ้นในอนาคต ปัจจุบันประกอบด้วยบริษัท ดังต่อไปนี้

  • บริษัท ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน)
  • บริษัท ไทยอัลติเมทคาร์ จำกัด
  • บริษัท ไทยรุ่งทูลส์ แอนด์ ไดส์ จำกัด
  • บริษัท ไทยออโต้เพรสพาร์ท จำกัด
  • บริษัท ทีทีอาร์ ไทยรุ่ง จำกัด
  • บริษัท ไทย วี.พี. ออโต้ เซอร์วิส จำกัด

มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี และโปร่งใส และให้ความสำคัญต่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้บริษัท มีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกต้อง สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 บริษัทฯ จึงกำหนดนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รายละเอียดดังนี้

 

  1. ขอบเขตการบังคับใช้

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ฉบับนี้                         มีขอบเขตการบังคับใช้ ครอบคลุมการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดที่ดำเนินการโดยบริษัทฯ รวมถึงบุคคลใดๆ ซึ่งล่วงรู้ข้อมูลส่วนบุคคล เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของบริษัทฯ ซึ่งจะต้องปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และตามกรอบที่กฎหมายกำหนด

สำหรับข้อมูลส่วนบุคคล ที่ได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562                 ใช้บังคับ ให้บริษัทสามารถเก็บรวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้ต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิม โดยต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562

 

  1. คำนิยาม

“ข้อมูลส่วนบุคคล”  หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

 “ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว”  หมายความว่า ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์                   ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใด ซึ่งกระทบต่อเจ้าของ     ข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด

 

  1. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ อาจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้

  • ข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ ชื่อและนามสกุล วันเดือนปี สถานที่เกิด สถานภาพ ข้อมูลตามที่ระบุใน บัตรประจำตัวประชาชน และหนังสือเดินทาง สำเนาบัตรประชาชาชน หรือ หมายเลขบัตรประชาชน
  • ข้อมูลติดต่อ ได้แก่ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ Line ID ช่องทางติดต่อในสื่อสังคมออนไลน์ สถานที่ทำงาน
  • ตำแหน่งงาน หน่วยงาน หรือองค์กร
  • ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานระบบอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ email หมายเลขไอพี (IP Address) ประเภทของโปรแกรมบราวเซอร์ (Browser) และคุกกี้ (Cookies) ประวัติการสนทนาในแอปพลิเคชันต่างๆ
  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ไว้ เมื่อมีการติดต่อ หรือร่วมกิจกรรมใดๆ กับบริษัทฯ เป็นต้น

บริษัทฯ จะทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ด้วยวิธีการที่ชอบด้วยกฎหมาย เท่าที่จำเป็น และเหมาะสม เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ และภายใต้การให้ความยินยอมของเจ้าของข้อมูล                     ส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ บริษัทฯ จะดำเนินการให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ได้ทราบรายละเอียด                 ของวัตถุประสงค์ในการเก็บ รวบรวม เพื่อประกอบการให้ความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นลายลักษณ์อักษร หรือ โดยวิธีการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือตามแบบวิธีการของบริษัทฯ

 

  1. การเคารพสิทธิในความเป็นส่วนบุคคล

บริษัทฯ เคารพสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล และตระหนักดีว่าเจ้าของข้อมูล ย่อมมีความประสงค์ที่จะได้รับความมั่นคงปลอดภัยเกี่ยวกับข้อมูลของตน ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้รับมา จะถูกนำไปใช้                 ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น โดยบริษัทฯ มีมาตรการเข้มงวดในการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ตลอดจน                การป้องกันมิให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยมิชอบด้วยกฎหมาย

 

  1. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคล ตามวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้

  • เพื่อประโยชน์ในการจัดหา หรือ จำหน่ายผลิตภัณฑ์ การให้หรือรับบริการในรูปแบบต่างๆ
  • เพื่อการทำธุรกรรมทางการเงิน และภาษี ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามสัญญาของบริษัทฯ
  • การค้นคว้า หรือ การวิจัย
  • เพื่อประโยชน์ในการจัดทำฐานข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์ และนำเสนอบริการหรือผลิตภัณฑ์ใดๆ ของบริษัทฯ และบริษัทในกลุ่ม หรือ บุคคลที่เป็นผู้จำหน่าย เป็นตัวแทน หรือมีความเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ
  • เพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงคุณภาพในการดำเนินงาน การให้บริการ และการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทฯ
  • เพื่อการวิเคราะห์ และติดตามการใช้บริการทางเว็บไซต์ และวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบย้อนหลัง ในกรณีที่เกิดปัญหาการใช้งาน
  • เพื่อการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของบริษัทฯ
  • เพื่อวัตถุประสงค์ในการควบคุมการเข้าถึง การป้องกันและระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือบุคคลอื่น การควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ และเพื่อประโยชน์ ในการดูแลรักษาความปลอดภัย ของบริเวณอาคาร ภายในอาคาร และพื้นที่ของบริษัทฯ
  • เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือ กฎระเบียบที่ใช้บังคับกับบริษัทฯ ทั้งในปัจจุบัน และอนาคต

ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ดำเนินการเก็บรวบรวมเพื่อวัตถุประสงค์ข้างต้น เป็นข้อมูลที่จำเป็นในการปฏิบัติตามสัญญา หรือ การปฏิบัติตามกฎหมายต่างๆ ที่ใช้บังคับ หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล                       ที่จำเป็นดังกล่าว อาจเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย หรือบริษัทฯ อาจไม่สามารถบริหาร หรือ จัดการสัญญา หรือ อำนวยความสะดวกในการดำเนินการต่างๆ ให้กับท่านได้

ทั้งนี้หากภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ จะแจ้ง                   ให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบ และดำเนินการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงจัดให้มีการบันทึกการแก้ไขเพิ่มเติมไว้เป็นหลักฐาน

 

  1. ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล เป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็น เพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งได้ระบุไว้ในคำประกาศฉบับนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่ใช้กำหนดระยะเวลาเก็บ ได้แก่ ระยะเวลาที่บริษัทฯ ยังมีความสัมพันธ์กับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในฐานะลูกค้า คู่ค้า ผู้ถือหุ้น พนักงาน                                ของบริษัทฯ และอาจเก็บต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็น เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือตามอายุความทางกฎหมาย              เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือ การใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือ                   การยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อเหตุอื่นตามนโยบาย และข้อกำหนดภายในของบริษัทฯ

ในกรณีที่ไม่สามารถระบุระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้ชัดเจน บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลไว้ตามระยะเวลาที่อาจคาดหมายได้ ตามมาตรฐานของการเก็บรวบรวม (เช่น อายุความตามกฎหมายทั่วไปสูงสุด 10 ปี)

 

  1. การรักษาความมั่นคงปลอดภัย

บริษัทฯ กำหนดให้มีมาตรการที่เหมาะสม และเข้มงวดในการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ตามนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัทฯ เพื่อป้องกันการสูญหาย                         การเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไข หรือ มิให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยไม่มีสิทธิ หรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย

 

  1. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ในฐานะที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มีสิทธิตามที่กำหนดไว้โดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูล                      ส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงสิทธิต่างๆ ดังนี้

  • สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ที่ได้ให้ความยินยอมกับบริษัทฯ ได้ เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัด โดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ที่ได้ให้                         ความยินยอมไปแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย

  • สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มีสิทธิขอเข้าถึง และขอรับสำเนาข้อมูลของตนเอง ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ รวมถึงขอให้บริษัทฯ เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลดังกล่าว ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้ให้ความยินยอม                ต่อบริษัทฯ ได้

  • สิทธิในการขอให้ส่ง หรือ โอนข้อมูลส่วนบุคคล

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มีสิทธิขอให้บริษัทฯ โอนข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง ที่ให้ไว้กับบริษัทฯ ได้ตามที่กฎหมายกำหนด

  • สิทธิในการขอลบข้อมูลส่วนบุคคล

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มีสิทธิขอให้บริษัทฯ ลบ หรือ ทำลาย หรือ ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ตามที่กฎหมายกำหนด

  • สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลของตนเองได้ตามที่กฎหมายกำหนด

  • สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง

กรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเห็นว่า ข้อมูลที่บริษัทฯ มีอยู่นั้นไม่ถูกต้อง หรือ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล                        มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้บริษัทฯ แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

  • สิทธิในการรับทราบกรณีมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ อาจมีการพิจารณาทบทวน และแก้ไขเปลี่ยนแปลงแบบแจ้งนี้ตามความเหมาะสมในบางครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลจะได้รับความคุ้มครองอย่างเหมาะสม

  • สิทธิในการร้องเรียน

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มีสิทธิในการร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หากบริษัทฯ ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้

 

ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ยื่นคำร้องขอใช้สิทธิภายใต้บทบัญญัติของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เมื่อบริษัทฯ ได้รับคำร้องขอดังกล่าวแล้ว จะดำเนินการภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด อนึ่ง บริษัทฯ สงวนสิทธิที่จะปฏิเสธ หรือ ไม่ดำเนินการตามคำร้องขอดังกล่าวได้ในกรณีที่กฎหมายกำหนด ในกรณี                ที่เจ้าของข้อมูลมีข้อจำกัดโดยเลือกที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะอย่าง อาจส่งผลให้ไม่สามารถได้รับบริการ                       จากบริษัทฯ ได้อย่างเต็มที่ รวมทั้งบริษัทฯ อาจจะไม่สามารถทำงานร่วมกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือให้บริการ   ใดๆ ได้ หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ยินยอมให้ข้อมูลที่บริษัทฯ ต้องการ

 

  1. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลกับบุคคลอื่นหรือหน่วยงานอื่น

บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทในกลุ่ม หรือ บุคคล หรือ หน่วยงานอื่นที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งทำงานร่วมกับบริษัทฯ ในการจัดหาผลิตภัณฑ์ และให้บริการในรูปแบบต่างๆ หรือ ตามความจำเป็นตามสมควรในการบังคับใช้ข้อกำหนด และเงื่อนไขของบริษัทฯ หรือ กรณีที่มีการปรับโครงสร้างองค์กร การควบรวมบริษัท หรือ การขายกิจการ และอาจมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับหน่วยงานราชการ หรือ หน่วยงานภาครัฐ ตามข้อบังคับของกฎหมาย หรือ ตามคำสั่งศาล หรือ ตามคำสั่งเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ โดยข้อมูลส่วนบุคคลจะได้รับการเก็บรักษาเป็นความลับ ทั้งในรูปเอกสาร และข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งในระหว่างการส่งผ่านข้อมูลทุกขั้นตอน

ทั้งนี้ ในกรณีที่ต้องมีการโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ บริษัทฯ จะดำเนินการตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด

 

  1. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ ได้มีการดำเนินการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 โดยแต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer : DPO) เพื่อตรวจสอบการดำเนินการของบริษัทฯ                    ที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

 

  1. ช่องทางติดต่อ

ในกรณีที่มีข้อสงสัย หรือ ต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล                        ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โปรดติดต่อบริษัทฯ ได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้

บริษัท ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน)

สถานที่ที่ติดต่อ : 304 ถ.มาเจริญ แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพฯ 10160

      เบอร์โทรศัพท์ : 0-2420-0076

      เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

      สถานที่ที่ติดต่อ : 304 ถ.มาเจริญ แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพฯ 10160

      อีเมล : DPOoffice@thairung.co.th

 

  1. การเปลี่ยนแปลงนโยบาย และแนวปฏิบัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะทำการพิจารณาทบทวนเงื่อนไขนโยบายบริษัทฯ ฉบับนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับ                   แนวปฏิบัติ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากมีการแก้ไข เปลี่ยนแปลง บริษัทฯ จะแจ้งให้ทราบด้วยการเผยแพร่                               ผ่านการประกาศที่เหมาะสมของบริษัทฯ

 

ทั้งนี้ ให้มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป

( นายสมพงษ์  เผอิญโชค )

กรรมการผู้จัดการใหญ่

ดาวน์โหลดเอกสาร